การเขียนแบบจะประกอบด้วยเส้นมากมาย แต่ละเส้นมีขนาดไม่เท่ากันและเส้นต่าง ๆ เหล่านั้นก็มีความหมายไม่เหมือนกัน ผู้เขียนแบบจำเป็นจะต้องรู้ความหมายของเส้นต่าง ๆ เหล่านั้นได้อย่างถูกต้องตามความหมาย ซึ่งเราพอจะแบ่งออกได้ดังนี้
1. เส้นเต็ม ( VISIBLE LINE ) ลักษณะของเส้นคือ เส้นที่ขีดจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง จะเป็นเส้นตรงหรือเส้นโค้งก็ได้ แบ่งออกเป็น 3 ชนิด
1.1 เส้นเต็มหนัก ใช้เขียนเส้นรูป เส้นกรอบ
1.2 เส้นเต็มปานกลาง ใช้เขียนเส้นบอกขนาด กำหนดขนาดและเส้นแสดงภาคตัด
1.3 เส้นเต็มเบา ใช้เขียนเส้นร่างแบบ
2. เส้นประหรือเส้นไข่ปลา ( HIDDLE LINE ) มีลักษณะคือ ขีดเป็นเส้นสั้นๆต่อกันไปเรื่อย ๆ โดยแต่ละเส้นมีความยาว 3 มิลลิเมตร ระยะห่างของแต่ละเส้น 1 มิลลิเมตร ใช้แสดงส่วนที่เส้นขอบรูปถูกบังหรือส่วนที่สายตามองไม้เห็น
3. เส้นลูกโซ่ ( CHIN LINE ) มีลักษณะคือ ขีดเป็นเส้นยาวสั้นยาวสั้นสลับกันไปเรื่อยๆ โดยที่เส้นยาวมีความยาว 10- 15 มิลลิเมตร เส้นสั้นมีความยาว 3 มิลลิเมตร ระยะห่างของแต่ละเส้น 1 มิลลิเมตร
แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
3.1 เส้นลูกโซ่หนัก เส้นแสดงแนวการตัด
3.2 เส้นลูกโซ่เบา ใช้เขียนเส้นผ่าศูนย์กลาง
4. เส้นที่เขียนด้วยมือ ( FREE HAND LINE ) เป็นเส้นที่ใช้มือเปล่าเขียนโดยไม่ได้ใช้ไม้บรรทัด เขียนแสดงส่วนที่แตกหักของชิ้นงาน เส้นลายไม้
สัญลักษณ์ของวัตถุ
สัญลักษณ์ของวัตถุที่ใช้แสดงในภาคตดมีขึ้นเพื่อแสดงให้ทราบว่าวัตถุที่ใช้นั้นเป็นชนิดใดบ้าง เพราะต้องการให้สะดวกและรวดเร็วในการทำงาน จึงได้แยกสัญลักษณ์ดังต่อไปนี้